วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2559

แปลเพลง Silent Scream

แปลเพลง Silent Scream

ลองแปลเพลงครั้งแรกค่ะ ชอบเนื้อหาในเพลงเป็นการส่วนตัว แต่ความจริงรู้จักศิลปินกลุ่มนี้ครั้งแรกเป็นเพลงของ Damian Dawn นะคะ เพลงนั้นก็เพราะแต่มีความรู้สึกว่าอยากแปลเพลงนี้ก่อนน่ะค่ะ ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ ไว้จะมาแปลอีกนะคะ หากต้องการให้แปลเพลงไหนรีเควสมาได้นะคะ





"Silent Scream"  by Anna Blue
Translated by The Hermit 5


I'm caught up in your expectations
You try to make me live your dream
But I'm causing you so much frustration
And you only want the best for me
ฉันติดอยู่ในความคาดหวังของคุณ
คุณหวังให้ฉันมีชีวิตในสิ่งที่คุณคาดฝันไว้
แต่ฉันกลับทำให้คุณผิดหวังอยู่บ่อยครั้ง
และคุณเองก็ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับฉัน
You're wanting me to show more interest
To always keep a big bright smile
Be that pinky little perfect princess
But I'm not that type of child
คุณอยากให้ฉันสนใจมันมากกว่านี้
คอยให้ฉีกยิ้มสดใสอยู่โดยตลอด
ให้เป็นเจ้าหญิงน้อยที่สุดแสนจะสมบูรณ์แบบ
แต่ฉันนั้นไม่ใช่แบบนั้น
And the storm is rising inside of me
Dontcha feel that our worlds collide?
It's getting harder to breathe
It hurts deep inside
ตอนนี้พายุภายในใจกำลังถาโถมฉัน
คุณไม่รู้สึกหรือไงว่าโลกของเรากำลังพังทลายลง
มันยากเหลือเกินที่จะหายใจ
เพราะข้างในมันเจ็บจนเกินที่จะทนไหว
Just let me be
Who I am
It's what you really need to understand
And I hope so hard for the pain to go away
ก็แค่ปล่อยให้ฉันเป็นตัวของตัวเอง
นั่นเป็นสิ่งที่คุณควรจะเข้าใจฉัน
ฉันหวังเหลือเกินว่าความเจ็บปวดนี้จะมลายหายไปเสียที

And it's torturing me
But I can't break free
So I cry and cry but just won't get it out
The silent scream
มันทรมานฉันเหลือเกิน
แต่ฉันก็ไม่สามารถเป็นอิสระจากมันได้
ฉันจึงได้แต่กรีดร้อง และกรีดร้อง แต่มันก็ไม่เคยเล็ดลอดออกมาได้เลย
เสียงกรีดร้องอันเงียบงัน
Tell me why you're putting pressure on me
And every day you cause me harm
That's the reason why I feel so lonely
Even though you hold me in your arms
บอกฉันทีสิ ทำไมคุณถึงได้กดดันฉันแบบนี้
ซึ่งมันทำร้ายฉันมากขึ้นในทุกๆวัน
นั่นแหละคือสาเหตุที่ทำให้ฉันว้าเหว่
ถึงแม้จะอยู่ในอ้อมกอดของคุณก็ตาม

Wanna put me in a box of glitter
But I'm just trying to get right out
And now you're feeling so so bitter
Because I've let you down
คุณอยากจะจับฉันยัดลงไปในโลกที่เป็นประกายแวววาวนั้น
แต่ฉันก็พยายามที่จะหนีออกมาทุกครั้ง
และตอนนี้คุณก็รู้สึกข่มขืนจนเกินทน
เพราะฉันทำให้คุณผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า
And the storm is rising inside of me
Dontcha feel that our worlds collide?
It's getting harder to breathe
It hurts deep inside
ตอนนี้พายุภายในใจกำลังถาโถมฉัน
คุณไม่รู้สึกหรือไงว่าโลกของเรากำลังพังทลายลง
มันยากเหลือเกินที่จะหายใจ
เพราะข้างในมันเจ็บจนเกินที่จะทนไหว

Just let me be
Who I am
It's what you really need to understand
And I hope so hard for the pain to go away
ก็แค่ปล่อยให้ฉันเป็นตัวของตัวเอง
นั่นเป็นสิ่งที่คุณควรจะเข้าใจฉัน
ฉันหวังเหลือเกินว่าความเจ็บปวดนี้จะมลายหายไปเสียที

And it's torturing me
But I can't break free
So I cry and cry but just won't get it out
The silent scream
มันทรมานฉันเหลือเกิน
แต่ฉันก็ไม่สามารถเป็นอิสระจากมันได้
ฉันจึงได้แต่กรีดร้อง และกรีดร้อง แต่มันก็ไม่เคยเล็ดลอดออกมาได้เลย
เสียงกรีดร้องอันเงียบงัน

Can't you see
How I cry for help
Сause you should love me
Just for being myself
คุณไม่เห็นจริงๆเหรอ…
ว่าฉันกรีดร้องหาความช่วยเหลือขนาดไหน
เพราะคุณควรจะรักฉันในอย่างที่ฉันเป็น…
I'll drown in an ocean
Of pain and emotion
If you don't
Save me right away
ฉันจะจมดิ่งอยู่ในอารมณ์และความเจ็บปวดที่มหาศาลนี้เป็นแน่
ถ้าคุณไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยฉัน ณ ตอนนี้
Just let me be
Who I am
It's what you really need to understand
And I hope so hard for the pain to go away
ก็แค่ปล่อยให้ฉันเป็นตัวของตัวเอง
นั่นเป็นสิ่งที่คุณควรจะเข้าใจฉัน
ฉันหวังเหลือเกินว่าความเจ็บปวดนี้จะมลายหายไปเสียที

And it's torturing me
But I can't break free
So I cry and cry but just won't get it out
The silent scream
มันทรมานฉันเหลือเกิน
แต่ฉันก็ไม่สามารถเป็นอิสระจากมันได้
ฉันจึงได้แต่กรีดร้อง และกรีดร้อง แต่มันก็ไม่เคยเล็ดลอดออกมาได้เลย
เสียงกรีดร้องอันเงียบงัน

My silent scream
เสียงกรีดร้องอันเงียบงันของฉัน…

วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2559

Journey Begin

Day One

เริ่มต้น ด้วยการกล่าวทักทาย และสวัสดีทุกท่านกันก่อนเลยนะคะ และยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกเล็กๆของเรานะคะ เราค่อนข้างตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะนี่ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ๆทีเราเพิ่งเคยได้ลองทำอะไรแบบนี้เลยล่ะค่ะ

คำเตือน

บล็อคนี้เป็นเนื้อหาที่ผ่านจากมุมมองของเรานะคะ อาจจะไม่ได้ตรงเสียทั้งหมดเพราะคนเราต่างมีมุมมองต่างกันออกไป เพราะไม่งั้นคนเรามันก็ไม่ใช่คนแต่เป็นเครื่องจักรไปแล้วล่ะค่ะ และบล็อคนี้เน้นบันทึกสิ่งที่เราได้ศึกษาตนเองนะคะ แต่ถ้าอ่านแล้วรู้สึกชอบ เราก็ดีใจนะคะ

เอาล่ะเดี๋ยวจะเบื่อกันซะก่อน งั้นขอแนะนำตัวคร่าวๆเลยนะคะ ตอนแรกเราเป็นเด็กค่อนข้าง ไม่สิ เก็บตัวมากๆเลยต่างหาก เราไม่ชอบเข้าหาใครก่อนคนส่วนมากจึงมองว่าเราหยิ่ง ซึ่งจริงๆแล้วเราไม่ได้หยิ่งอะไรเลย เราแค่รู้สึกไม่ถนัดที่จะเข้าหาใครก่อน และคนอื่นก็เข้าหาเราได้ยากเช่นกัน ตอนเรียนก็ไม่อะไรเท่าไหร่ แต่จุดเปลี่ยนจริงๆคือตอนทำงานนี่แหละ เปลี่ยนจริงๆขนาดแตกหักเลย เพราะรู้สึกเข้ากับคนในทีมไม่ได้เลย ทำอะไรแลดูไม่ถูกใจเขา และเราเองก็ไม่ชอบไปเสียหมด จนถึงขั้นเครียดหนักมาก เครียดจนเป็นโรคซึมเศร้าขั้นต้นๆแล้วด้วยซ้ำ ซึ่งช่วงนั้นก็โทษตัวเองหนักมาก แต่ไม่รู้จะทำยังไง และรับรู้เลยว่าการถูกทอดทิ้งมันแย่แค่ไหน เขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจหรือตั้งใจก็แล้วแต่ เราจะไม่ขอพูดไปถึงรายละเอียดแล้วกันนะคะ เพราะพูดไปก็ไม่ก่อให้เกิดผลดีแก่ฝ่ายใดเลย

จนวันหนึ่งที่ทำงานได้จัดการเข้าอบรมพัฒนาพนักงานซึ่งการอบรมนั้นคือการใช้ศาสตร์ Enneagram หรือที่ไทยเรียกว่าศาสตร์นพลักษณ์นั้นเอง ซึ่งพอได้เข้าไปอบรมก็ได้รู้ว่าตัวเองทำไมเป็นแบบนี้ และเข้าใจคนอื่นมากขึ้นเป็นผลเสริมด้วย จึงมีความรู้สึกอยากศึกษาศาสตร์นี้เป็นอย่างมาก รวมไปถึงตั้งแต่ยังเด็กเรามักสนใจและอยากเข้าใจว่าตัวเรา และคนอื่นๆมีที่มาที่ไปอย่างไร เราเหมาะกับอะไรเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอยิ่งศึกษาก็ยิ่งสนุก แต่การที่เราศึกษาและพัฒนาก็ใช่ว่าทุกคนจะทำเช่นเดียวกัน จนในที่สุดเราก็ทนไม่ไหวและขอลาจากงานที่ทำอยู่ในที่สุดเพราะคิอว่าอยู่ต่อไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นแน่นอน เพราะพวกเพื่อนร่วมงานก็คงไม่แฮปปี้และเราเองก็ไม่เช่นกัน เพราะงั้นเลือกแบบนี้คือวิน-วินทั้งคู่ บางคนอาจจะมองว่าออกทำไมล่ะทำไมย้ายแผนก แต่ในมุมมองเรา เราอยากออกจากสภาพกล่องแคบๆนี้โดยไม่เหลียวหลังกลับมาอีกแล้ว และมันไม่ใช่งานที่เราอยากจะทำเท่าไหร่นัก เพราะงั้นทางออกนี้เราจึ้งรู้สึกว่าเป็นทางที่ดีสำหรับเรา เพื่อได้เริ่มทำอะไรใหม่ๆ และค้นหาตัวตนของตัวเองได้อย่างแท้จริงมากกว่าที่จะหลอกตัวเอง โดยแค่เปลี่ยนจากอีกกล่องเป็นอีกกล่องที่มีขนาดเท่ากัน แต่แค่สีไม่เหมือนกัน

ชีวิตเรายังมีอะไรให้ทำมากกว่าอยู่ในกล่องแคบๆแบบนี้

เอาล่ะขอจบของวันนี้เท่านี้ก่อนนะคะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาต่อนะคะ

Thank you from The Hermit 5